ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สำนักข่าวเดอะการ์เดียน อ็อกซ์แฟม (Oxfam) สถาบันสิ่งแวดล้อมสตอกโฮล์ม และผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ ได้ทำงานร่วมกันเพื่อทำรายงานสืบสวนพิเศษเรื่อง “The Great Carbon Divide”
โดยสำรวจและเปรียบเทียมความไม่เท่าเทียมกันของการปล่อยคาร์บอนและผลกระทบ ระหว่างบุคคลที่ร่ำรวยยิ่งยวดซึ่งถูกเรียกว่า “กลุ่มผู้ก่อมลพิษ” กับกลุ่มประชากรที่ยากจนที่สุด
สหรัฐฯ-ฟิลิปปินส์ลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์ ส่งเสริมความยั่งยืนด้านพลังงาน
วิจัยพบ เมฆบนท้องฟ้าในบางพื้นที่ปัจจุบันเกิดจาก “ไมโครพลาสติก”
“Wasp-107b” ดาวเคราะห์ประหลาด ที่ฝนตกลงมาเป็น “เม็ดทราย”
รายงานอ็อกซ์แฟมระบุว่า ประชากรที่ร่ำรวยที่สุดที่มีอยู่เพียง 1% ของโลก มีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากกว่ากลุ่มคนที่ยากจนที่สุดซึ่งมีอยู่ 66% โดยมีผลกระทบร้ายแรงต่อชุมชนที่เปราะบาง และคนรวยเหล่านี้ยังมักขัดขวางความพยายามระดับโลกในการจัดการกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ
การศึกษาความไม่เท่าเทียมกันของสภาพภูมิอากาศโลกที่ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่เคยดำเนินการมา แสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนที่รวยที่สุดในโลก ซึ่งประกอบด้วยผู้คน 77 ล้านคน รวมถึงมหาเศรษฐี เศรษฐีและผู้มีรายได้มากกว่า 140,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 5 ล้านบาท) ต่อปี คิดเป็น 16% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดในปี 2019
รายงานของออกซ์แฟมแสดงให้เห็นว่า กลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุด 1% มักจะใช้ชีวิตแบบสะดวกสบาย มีเครื่องปรับอากาศ เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แต่พวกเขาปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซดมากถึง 5.9 พันล้านตันในปี 2019 ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างใหญ่หลวง แต่ตัวเองรับผลกระทบน้อยมาก
มีการประเมินว่า จะมีผู้เสียชีวิต 226 รายทั่วโลกต่อการปล่อยคาร์บอนทุก ๆ ล้านตัน เมื่อคำนวณก็พบว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 1% เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดความร้อนที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้คน 1.3 ล้านคนในช่วงหลายทศวรรษข้างหน้า
ความทุกข์ทรมานมาตกอยู่กับผู้คนที่อาศัยอยู่ในความยากจน ชุมชนชาติพันธุ์ชายขอบ ผู้อพยพลี้ภัย และสตรีและเด็กผู้หญิง ซึ่งอาศัยและทำงานนอกบ้านหรือในบ้านที่เสี่ยงต่อสภาพอากาศเลวร้าย
ตามการวิจัย กลุ่มเหล่านี้มีโอกาสน้อยที่จะมีเงินออม ประกัน หรือการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งทำให้ชีวิตและทรัพย์สินมักได้รับผลกระทบหนักเมื่อเกิดน้ำท่วม ภัยแล้ง คลื่นความร้อน และไฟป่า
สหประชาชาติกล่าวว่า ขณะนี้ ในประเทศกำลังพัฒนามีการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศสุดขั้วสูงถึง 91%คำพูดจาก เว็บสล็อตแท้
รายงานยังพบว่า คน 99% บนโลกที่ไม่ใช่คนรวย จะใช้เวลาประมาณ 1,500 ปีในการผลิตคาร์บอนได้มากเท่ากับที่มหาเศรษฐีสร้างใน 1 ปี
เคียรา ลิกัวรี ที่ปรึกษาอาวุโสด้านนโยบายความยุติธรรมด้านสภาพอากาศของอ็อกซ์แฟม กล่าวว่า “มหาเศรษฐีกำลังปล้นชีวิตและสร้างมลพิษให้กับโลกจนถึงขั้นทำลายล้าง และผู้ที่ยากจนที่สุดกลับเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด”
บริษัทของเศรษฐีจำนวนมากยังก่อให้เกิดมลพิษสูง ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐฯ สมาชิกสภาคองเกรส 1 ใน 4 รายงานว่า เป็นเจ้าของหุ้นในบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งมีมูลค่ารวมระหว่าง 33 ล้านถึง 93 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สิ่งนี้ช่วยอธิบายได้ว่า เหตุใดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเหตุใดรัฐบาลในหลายประเทศจึงจัดสรรเงินนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่ออุดหนุนอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลในปี 2020 ซึ่งตรงกันข้ามกับคำมั่นสัญญาที่จะยุติการปล่อยก๊าซคาร์บอน
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก INA FASSBENDER / AFP
ด่วน! 4 คนร้ายบุกยิงนักเรียนช่างภายในซ.ระนอง 2 เสียชีวิต 1 ราย
โดดเด่นบนเวที Miss Universe! “ชุดเทพธิดาอาณาจักรอยุธยา“ ถูกเลือกลงหนังสือพิมพ์ ”เอลซัลวาดอร์“
มอเตอร์เวย์ M81 “บางใหญ่ – กาญจนบุรี” เตรียมเปิดทดลองใช้ฟรีปลายปี